วันเสาร์ที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2558

ตามหา Dictionary ชั้นเลิศ ตอนที่ ๓ Dictionary สำหรับเด็กๆ

Dictionary สำหรับเด็กๆ ชั้นประถมถึงมัธยมต้นควรมีตัวหนังสือไม่เล็กเกินไป อ่านง่าย ถ้ามีตัวหนังสือสองสีขึ้นไปก็จะทำให้เด็กๆ หาคำศัพท์ได้ง่ายและรู้สึกไม่เบื่อ เด็กๆ ควรเห็นแล้วชอบ มีความรู้รอบตัวและภาพประกอบที่ทำให้เขาสนใจ เช่น ธงหรือชุดประจำชาติประเทศต่างๆ พร้อมหน่วยเงินตรา ภาพพืชผัก สัตว์ เครื่องแต่งกาย ฯลฯ

ดิกชันนารีสำหรับเด็กยังไม่จำเป็นต้องเป็นดิกชันนารีแบบอังกฤษ-อังกฤษ ดังนั้นการให้คำอ่านจึงยังใช้ตัวอักษรไทยอยู่ อย่างไรก็ตาม เราควรเลือกที่การให้คำอ่านใกล้เคียงการออกเสียงในภาษาอังกฤษมากที่สุด เช่น คำว่า APPLE ควรให้คำอ่านว่า "แอ๊พ-โพ่วะ" ไม่ใช่ "แอ๊ป-เปิ้ล"

แม้จะเป็นดิกชันนารีสำหรับเด็กก็ควรบอกว่าคำแต่ละคำนั้นสามารถเป็นคำชนิดใดได้บ้าง ควรมีตัวอย่างประโยคให้เด็กๆ คุ้นเคยกับการแต่งประโยค ควรมีสำนวนที่ใช้บ่อยด้วย และถ้าเป็นคำกิริยาก็ควรผันกิริยาเป็นรูปต่างๆ ให้เห็น เช่น

LOVE (เลิ่ฟฺ) n. 1 ความรัก เช่น Love is good. ความรักเป็นสิ่งที่ดี v. 2 loves, loving, loved, have loved รัก เช่น I love my family. ฉันรักครอบครัวของฉัน puppy love ความรักใคร่ชอบพอกันของเด็กๆ 

ตีความได้ว่า

คำว่า LOVE อ่านว่า "เลิ่ฟฺ" 
ความหมายที่ 1 เมื่อเป็นคำนาม (noun) มีความหมายว่า ความรัก เช่น Love is good. (ความรักเป็นสิ่งที่ดี)  
ความหมายที่ 2 เมื่อเป็นคำกิริยา (verb) มีความหมายว่า รัก เช่น I love my family (ฉันรักครอบครัวของฉัน)
          เมื่อใช้กับ สรรพนามบุรุษที่สามเอกพจน์ใน present tense ใช้ loves 
          เมื่อใช้เป็น gerund หรือใน continuous tense ใช้ loving (ตัด e ข้างท้ายออก)
          เมื่อใช้ใน past tense ใช้ loved
          เมื่อใช้ใน perfect tense หรือ passive voice ใช้ loved
 สำนวน puppy love แปลว่า ความรักใคร่ชอบพอกันของเด็กๆ 

และส่วนตัวแล้วคิดว่า ดิกชันนารีสำหรับการเรียนรู้อย่างมีคุณภาพของเด็กๆ ควรจะมีคำศัพท์อย่างน้อย 20,000 คำ

น่าเสียดายว่าดิกชันนารีอังกฤษ-ไทย ที่เคยพาน้องนักเรียนไปเลือกนั้นหาเล่มที่มีครบทุกอย่างนี้ได้ยากมาก บางเล่มอธิบายดี การเลือกใช้คำไพเราะและนำมาใช้งานได้จริงในระดับงานแปล บางเล่มภาพประกอบสวย ชัดเจน บางเล่มมีคำศัพท์ยากๆ เยอะ แต่การจัดรูปเล่มทำให้หาคำได้ลำบาก และคำแปลแปลแบบห้วนๆ พอรู้ว่าอะไรเป็นอะไร แต่นำมาใช้ไม่ได้จริงในการแปล บางเล่มดีเกือบทุกอย่าง แต่วงคำศัพท์น้อยมาก ก็ต้องมาปรึกษากันว่าอะไรสำคัญที่สุดและน้องๆ ชอบเล่มไหนมากที่สุด (หรืออาจจะต้องซื้อสองเล่ม) อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่สุดในวัยนี้ไม่ใช้ความรู้แบบจัดเต็ม แต่เป็นการเรียนรู้ภาษาอย่างสนุกสนาน ทำให้เขาอยากศึกษาต่อเองที่บ้าน และเพิ่มพูนทักษะในการพัฒนาภาษาด้วยตัวเองสำหรับวันข้างหน้า เพราะภาษานั้นได้ผลดีที่สุดเมื่อผู้เรียนมีทักษะในการเรียนรู้ มีวินัยเสมอต้นเสมอปลาย และรู้ว่าเขาต้องการรู้อะไรและเพื่ออะไร

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น