AEC กับการเรียนภาษาอังกฤษเพื่ออนาคต(อันใกล้)
AEC หรือการเปิดตลาดเสรีในกลุ่ม 10 ประเทศอาเซียนนั้นรวมถึงการจ้างงานอย่างเสรีในระหว่างพลเมืองของแต่ละประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ทรงพลังในการทำให้การเรียนภาษาอังกฤษเพื่อทำข้อสอบเพียงอย่างเดียวอย่างที่เราเคยทำมาในการศึกษาภาคบังคับนั้นไม่เพียงพออีกต่อไป เนื่องจากบริษัทหรือองค์กรที่มีศักยภาพในการขยับขยายในระดับอาเซียนจะต้องการพนักงานที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ดีและอย่างเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการฟัง พูด อ่าน เขียน จะมีการสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษมากขึ้น ทำให้ผู้สมัครที่ทำข้อสอบได้คะแนนดี ฟังออก แต่พูดและเขียนไม่ได้นั้นตกอยู่ในฐานะตัวเลือกรองไปทันที
ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องปรับตัวกันตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากการเรียนภาษาในประเทศไทยนั้นมีรูปแบบอันเป็นเอกลักษณ์ในการสอนหลักไวยากรณ์ก่อนการสื่อสาร อาจจะเนื่องมาจากผู้ประพันธ์ตำราเรียนภาษาไทยในยุคแรกนั้นเป็นกลุ่มกวีที่ยึดมั่นในฉันทลักษณ์ของการประพันธ์กาพย์กลอนที่ต้องสมบูณณ์แบบทั้งด้านความไพเราะและฉันทลักษณ์ ส่งผลให้คนที่เรียนไวยากรณ์ก่อนการสื่อสารนั้นคิดว่าต้องพูดถูกเป๊ะก่อนจึงจะสื่อได้ แต่หากไม่เคยหัดพูดก็จะไม่เคยมั่นใจที่จะพูด พอไม่มั่นใจที่จะพูดก็พาลไม่ยอมพูดไปเลย และนิยามตนเองว่าไม่มีความสามารถในภาษาอังกฤษ ทั้งๆ ที่ประเทศไทยก็มีวิชาภาษาอังกฤษในระบบการศึกษากันถึง 12 ปี ในขณะที่ประเทศฝั่งยุโรปที่มีการติดต่อสัมพันธ์กับเพื่อนบ้านมาตลอดนั้นให้ความสำคัญกับการสื่อสารได้ก่อนความสามารถในการอธิบายหลักภาษา แบบเรียนที่ใช้สอนภาษาจึงเน้นที่การฝึกฟังและพูดบทสนทนาง่ายๆ ในชีวิตประจำวันก่อนค่อยสอนการอ่านและการเขียนที่ค่อยๆ แทรกหลักไวยากรณ์ที่จำเป็นในแต่ละขั้นตอนเป็นระยะ โดยเก็บหลักไวยากรณ์ขั้นสูงไว้สำหรับผู้ต้องการศึกษาภาษาเพื่อเป็นครู หรือนักภาษาศาสตร์ต่อไป มีคนจำนวนมากที่สามารถพูดภาษาที่สามได้คล่องทั้งที่เรียนมาเพียงไม่กี่เดือน เพราะในชีวิตประจำวันนั้น การใช้ภาษาสื่อสารได้นั้นสำคัญกว่า "ความสามารถในการอธิบายหลักภาษาได้" และนำความก้าวหน้ามาสู่ชีวิตอย่างเห็นได้ชัด
หากคิดว่า AEC ยังเป็นเรื่องไกลตัว หลายคนคงยังไม่ทราบว่าความสามารถพิเศษทางด้านภาษานั้นทำให้คนทำงานในระดับงานเดียวกันมีเงินเดือนสูงกว่าและมีความเร็วในการก้าวหน้าต่างกัน ส่วนตัวผู้เขียนเคยทำงานในกองบรรณาธิการเมื่อหลายปีก่อน พบว่าคนที่สามารถตรวจเช็คภาษาอังกฤษเปรียบเทียบกับภาษาไทยจะได้เงินเดือนมากกว่าคนที่สามารถพิสูจน์อักษรภาษาไทยได้เพียงภาษาเดียวถึง 2000 บาท ต่อมาได้ทำงานฝ่ายต่างประเทศที่นั่งติดต่อลูกค้าทางอีเมล์ในบริษัทก็ได้เงินเดือนมากกว่าฝ่ายขายในประเทศที่ต้องออกไปติดต่อลูกค้านอกบริษัทเป็นเท่าตัว ส่วนพนักงานบัญชีที่สามารถทำบัญชีเพื่อนำเสนอกรมพาณิชย์ตามระบบไทยๆ และสามารถทำบัญชีเป็นภาษาอังกฤษเสนอเจ้านายฝรั่งได้ในเวลาเดียวกันนั้นสามารถมีเงินเดือนได้เป็นหลักแสน นี่ยังไม่รวมถึงความจริงที่ว่าผู้สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ย่อมมีโอกาสไปฝึกงาน ดูงานต่างประเทศ แล้วกลับมาทำงานเป็นหัวหน้าฝ่ายประสานงานกับองค์กรต่างชาติได้มากกว่าคนที่ฟังภาษาอังกฤษไม่กระดิกหูอย่างแน่นอน
ในการทำงานบางสายอาชีพเช่นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินซึ่งเป็นงานในฝันของใครหลายคน บริษัทจะรับสมัครเฉพาะผู้ที่สอบได้รับผลการวัดระดับภาษาอังกฤษเพื่อการทำงาน TOEIC 550 ขึ้นไปเท่านั้น คะแนนระดับนี้ในองค์กรชั้นนำบางองค์กรขึ้นเงินเดือนให้อีกถึงเดือนละ 2,000 บาท และถ้าคุณสามารถสอบได้คะแนน TOEIC 700 ขึ้นไปก็อาจได้เงินเดือนส่วนเพิ่มจากโครงสร้างเงินเดือนปกติถึง 5,000 บาทเลยก็ได้ เห็นได้ชัดว่าการศึกษาภาษาอังกฤษให้สื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพนั้นเป็นความมั่นคงในชีวิตการทำงานและความก้าวหน้าในอนาคตอย่างแท้จริง
ผลกระทบของAEC อาจมองเห็นได้ในอีกไม่กี่ปีนี้คือ
- เราจะเริ่มเห็นมองงานออกเป็นสี่ระดับ คือกลุ่มผู้ใช้แรงงาน พนักงานหรือลูกจ้างที่ต้องใช้ความรู้ในการทำงานแต่ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้ พนักงานหรือลูกจ้างที่ใช้ภาษาอังกฤษได้ และผู้บริหารที่ต้องสามารถสื่อสารในระดับนานาชาติได้
- ค่าจ้างของแรกงานกลุ่มแรกอาจจะถูกกดลงเพราะต้องแข่งขันกับแรงงานจากต่างประเทศที่เขายินดีรับค่าจ้างที่ถูกกว่า กลุ่มที่สองจะหางานได้ยากขึ้นโดยที่งานมีความก้าวหน้าน้อยลงและฐานเงินเดือนที่ไม่ค่อยขยับไปไหน ในขณะที่เงินเดือนของสองกลุ่มหลังจะมากขึ้นพร้อมกับความคาดหวังที่สูงขึ้นจากนายจ้าง
- คนไทยที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดีสามารถหางานทำในต่างประเทศได้ง่ายขึ้น ได้เงินเดือนสูงกว่าในประเทศไทย และได้ประสบการณ์การทำงานในระดับนานาชาติ
- คนที่ใช้ภาษาอังกฤษไม่ได้นั้นอาจจะกลายเป็นพลเมืองชั้นสองที่ต้องแข่งขันกับแรงงานราคาถูกจากต่างประเทศ หรือไม่อาจก้าวหน้าไปสู่จุดสูงสุดของอาชีพได้เพราะมีเพดานของสายงานที่ไม่อาจก้าวข้ามไปได้เนื่องจากไม่สามารถสื่อสารกับฝ่ายบริหารและลูกค้าต่างชาติและช่วยให้องค์กรขยับขยายได้
- คนที่สามารถขึ้นสูงจุดสูงสุดของสายอาชีพได้ง่ายดายที่สุดจะเป็นคนที่สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและรู้มารยาทในสังคมหลากวัฒนธรรม มีความคิดสร้างสรรค์ ไม่ยึดติดกับกรอบความคิดวัฒนธรรมเดียว สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี และจะดีมากหากสามารถสื่อสารภาษาที่สามซึ่งเป็นภาษาในอาเซียนได้
แม้ว่าการเรียนในโรงเรียนนั้นอาจจะไม่ได้สนับสนุนการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการทำงานอย่างเพียงพอและผู้เรียนยังต้องศึกษาเพิ่มเติมเพื่อการสอบวัดระดับในระดับสูงขึ้นไป แต่ในยุคที่อินเตอร์เน็ตกำลังครองโลกและสังคมเมืองส่วนใหญ่ครอบครองสมาร์ทโฟนเป็นสมบัติประจำตัว การเรียนภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันก็เป็นเรื่องง่ายและสนุกสนานได้พร้อมๆ กับการเล่นเฟซบุ๊คหรือคุ้กกี้รัน ซึ่งเราสามารถศึกษาเรียนรู้และพัฒนาประสบการณ์ทางภาษาอังกฤษในยามว่างได้หลากหลายวิธี ดังต่อไปนี้
- คนติดเฟซบุ๊คหรือทวิสเตอร์สามารถติดตามแฟนเพจหรือทวิสเตอร์สอนภาษาที่มีอยู่อย่างหลากหลายแล้วอ่านเกร็ดการเรียนภาษาได้ทุกครั้งที่ออนไลน์สังคมเหล่านี้ฟรีๆ ได้ เช่น แฟนเพจ Vocab Differs ที่ให้ความรู้เรื่องความแตกต่างในการใช้คำพ้องความหมายในภาษาอังกฤษ เป็นต้น
- คนที่ชอบดูคลิปต่างๆ บน youtube ก็สามารถดูคลิปต่างๆ ตั้งแต่ MV นักร้องต่างชาติ, โฆษณาเรียกเสียงหัวเราะ, หนังสั้น, เทคนิกการประดิษฐ์หรือตกแต่งสิ่งของแบบ DIY (Do-It-Yourself) ฯลฯ
- ไม่รู้ศัพท์คำไหนมีดิคชันนารีออนไลน์ฟรีไว้บริการ พร้อมโฟรัมถกเถียงอภิปรายถึงหลักการใช้ภาษาอย่างถึงพริกถึงขิง เว็บไซต์ที่แนะนำเพราะใช้หาความหมายได้หลายภาษาและมีโฟรัมไว้อธิบายการใช้คำหรือวลีต่างๆ คือ www.wordreference.com
- มีเว็บไซต์และบล็อกสอนภาษาฟรีๆ ให้อ่านไม่รู้จักหมด เช่น www.bbc.co.uk/languages/ ที่สอนภาษาเพื่อการสื่อสารถึง 40 ภาษา หรือ http://english-test-guidance.blogspot.com ที่สอนการทำข้อสอบภาษาอังกฤษแบบต่างๆ
- ดูภาพยนตร์เสียงในฟิล์มได้หมดไม่ว่าจะเป็นสำเนียงอเมริกัน บริทิช หรือออสเตรเลียน เอเชียน ฯลฯ
หรือหากสนใจคลาสพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษพื้นฐานอย่างมีประสิทธิภาพหรือเรียนรู้ภาษาตามจุดประสงค์ก็สามารถสอบถามได้ที่ Ave y Sol (อาเบ้ อิ โซล) เฟซบุ๊ค Ave y Sol หรือ โทร. 080-411-5436 ที่นี่มีการเรียนการสอนที่เน้นการทำความเข้าใจภาษาอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาผู้เรียนให้สามารถใช้ภาษาได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ กลุ่มเล็กใส่ใจกับผู้เรียนอย่างทั่วถึงโดยอาจารย์ผู้มีประสบการณ์ทั้งในสายวิชาการและสายวิชาชีพ มีการเรียนการสอนเสริมบนเฟซบุ๊คและบล้อกต่างๆ
หลักสูตรของเราเริ่มต้นที่ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน แล้วแบ่งออกเป็นสองสายคือสายวิชาการและสายอาชีพ สำหรับสายวิชาการนั้นจะเป็นการเรียนภาษาที่เน้นการอ่านและการเขียนพร้อมความเข้าใจทางด้านไวยากรณ์เพื่อการสอบวัดระดับ มีเทคนิกการเรียนภาษาด้วยตัวเองเพื่อเตรียมตัวศึกษาต่อต่างประเทศ เขียนรายงานและนำเสนอผลงานเป็นภาษาอังกฤษ ไปจนถึงการเขียนจดหมายสมัครงาน ประวัติส่วนตัวและจดหมายธุรกิจ
ส่วนทางสายอาชีพนั้นเป็นการเรียนภาษาเพื่อการสื่อสารในด้านงานขายและงานบริการ การติดต่อสื่อสารในที่ทำงาน การอ่านเขียนภาษาอังกฤษเบื้องต้น และการเขียนจดหมายสมัครงานและจดหมายธุรกิจ
เพื่อการเรียนภาษาที่มุ่งสู่อนาคต ที่ไม่เพียงแต่ทำข้อสอบได้ แต่ยังสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการสร้างอนาคตที่มั่นคง
ผู้สนใจสามารถขอทำแบบทดสอบวัดระดับภาษาอังกฤษของตัวเองพร้อมรับคำแนะนำในการเรียนภาษาที่เหมาะสมกับตัวเองได้ฟรี ที่ร้าน Ave y Sol โทร 080-411-5436
พิณทิพย์
9 พฤษภาคม 2557
ข้อมูลเพิ่มเติมhttp://www.thai-aec.com/41
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น